top of page
Sukrit Lomlai

รีวิว 8 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ขายดีปี 2022

Updated: Feb 9, 2022

ด้วยสภาพอากาศของเมืองไทยตอนนี้ที่เต็มไปด้วยฝุ่น PM2.5 รวมถึงควันพิษ มลภาวะต่าง ๆ การมีตัวช่วยเพื่อสร้างอากาศดี ๆ ให้เกิดขึ้นภายในบ้าน ออฟฟิศ หรือสถานที่ทั่วไป จึงเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ หนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้ต้องยกให้กับ เครื่องฟอกอากาศ ที่ปัจจุบันเองก็มีการพัฒนาตัวสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และลดอันตรายที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพ ใครยังลังเลใจ เลือกไม่ถูก จะขอแนะนำให้รู้จักกับ 8 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ขายดีปี 2022 แต่ละรุ่นคัดสรรมาเพื่อเพื่อน ๆ แล้ว



เทคนิคเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ


1. เครื่องต้องเหมาะกับขนาดพื้นที่

ก่อนจะตัดสินใจว่าควรซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ต้องดูขนาดพื้นที่มาเป็นอันดับแรก เพราะจะช่วยให้อากาศภายในทั้งหมดสดชื่น ไม่รู้สึกอับ หรือมีปัญหาเรื่องฝุ่นละออง อ่านขนาดของเครื่องว่าเหมาะกับพื้นที่เท่าไหร่ เพราะถ้าเครื่องใหญ่เกินไปก็เปลืองไฟเปล่า ๆ ครับ


2. มีสัญลักษณ์ประหยัดไฟ

ยุคนี้ไม่ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดก็ควรเลือกแบบที่ประหยัดไฟเบอร์ 5 เอาไว้ก่อน ยิ่งใครเปิดใช้งานประจำทุกวัน หากไม่สังเกตสัญลักษณ์นี้คงได้จ่ายค่าไฟต่อเดือนเพิ่มขึ้นอีกหลายบาทแน่ ๆ เอาเงินเก็บไว้ทำอย่างอื่นดีกว่านะ


3. ฟังก์ชันเสริมของตัวเครื่อง

อีกสิ่งที่เพื่อน ๆ มองข้ามไม่ได้ในการซื้อเครื่องฟอกอากาศคือพวกฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ของแต่ละรุ่นว่ามีอะไรพิเศษบ้าง เช่น ระบบกำจัดเชื้อโรค, การเพิ่มความชื้นภายในพื้นที่, การดักจับยุง, การเปิด-ปิดอัตโนมัติ เป็นต้น เพื่อให้สะดวกและตอบโจทย์การใช้งาน


4. ร้านค้าที่ซื้อและบริการหลังการขาย

ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ต้องมองถึงร้านค้าที่มีคุณภาพ ให้บริการดีเยี่ยม มีคำแนะนำต่าง ๆ เพื่อความเข้าใจ รวมถึงมีบริการหลังการขายทั้งจากตัวร้านและยี่ห้อที่เลือกซื้อด้วย เผื่อเกิดเหตุขัดข้องจะได้รีบซ่อมแซมแก้ไขให้ทันที



ประเภทแผ่นกรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศ


1. แผ่นกรองอากาศ HEPA

High Efficiency Particulate Air สามารถกรองฝุนขนาดเล็กระดับ PM 2.5 ได้ จึงเป็นประเภทแผ่นกรองที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเวลานี้


2. แผ่นกรองอากาศ Carbon

แผ่นคาร์บอนจะเน้นเรื่องกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นสีในห้อง กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร กลิ่นเคมีชนิดต่าง ๆ เหมาะกับห้องใหม่พึ่งสร้างเสร็จ หรือคนชอบนำอาหารมาทานในห้อง


3. แผ่นกรองอากาศ All in One

จะรวมเอาชนิดแผ่นกรองหลายประเภทมาไว้ในชุดเดียว มักติดตั้งในเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก แต่ไม่สามารถถอดล้างได้ มีราคาสูง


4. แผ่นกรองอากาศแบบพิเศษ

จะมีให้เลือกเยอะขึ้นอยู่กับประเภทที่เน้นใช้งาน เช่น Allergen Filter สำหรับกรองสารชนิดต่าง ๆ ไม่ให้เกิดภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ตัวไรฝุ่น หรือ Photocatalyst Filter ที่ช่วยกรองพวกสารเคมี เป็นต้น



รีวิว 8 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ขายดีและน่าใช้ปี 2022


หลังจากศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศกันไปแล้ว มาถึงสิ่งที่หลายคนอยากศึกษาข้อมูลมากที่สุดว่าควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ที่พร้อมตอบโจทย์แบบครบด้าน และยังเป็นรุ่นขายดีแห่งปี 2022 เพื่อเพิ่มอากาศให้สะอาด ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยขอรีวิวทั้งหมด 8 ยี่ห้อ ดังนี้



1. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 4 Lite





เริ่มต้นด้วยเครื่องฟอกอากาศจาก Xiaomi อย่าง Xiaomi Mi Air Purifier 4 Lite ที่ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ 6,330 ลิตร / นาที ค่า CADR 380 ลบ. ม. / ชม. ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่น และควันบุหรี่ได้อย่างหมดจด เปิดการกรองแบบ 360 องศา กรองสารฟอร์มาดีไฮด์สูงสุด 120 ลบ.ม. / ชม. ไส้กรอง H12 มีการเคลือบสารป้องกันและกำจัดแบคทีเรีย จัดการได้กว่า 99.99% ขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่ความกว้างแค่ราวกระดาษ A4 เสียงเงียบ มาพร้อมหน้าจอ LED บอกค่าตัวเลขต่าง ๆ เชื่อมต่อแอป MI Home เพื่อใช้งานได้อย่างสะดวก เหมาะกับห้องขนาด 25-45 ตร.ม.


จุดเด่นของสินค้า

  • สร้างอากาศบริสุทธิ์ได้ถึง 6,330 ลิตร / นาที

  • จัดการกลิ่นและฝุ่นละอองต่าง ๆ ได้ดีด้วยค่า CADR 380 ลบ.ม. / ชม.

  • มีการเคลือสารป้องกันและจัดการแบคทีเรีย 99.99%

  • ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย ไม่เปลืองพื้นที่

  • มีหน้าจอ LED บอกสถานการณ์ใช้งานและตัวเลขต่าง ๆ



 



2. เครื่องฟอกอากาศ Aston Air Purifier





เครื่องฟอกอากาศรุ่นต่อมาที่อยากแนะนำกับ Aston Air Purifier ให้คุณได้สัมผัสกับอากาศอันแสนบริสุทธิ์ เสมือนได้นั่งเล่นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนรื่นรม จัดการกับฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 99.7%, ฆ่าเชื้อแบคทีเรียทุกประเภท 99.8%, กำจัดสารฟอร์มาดีไฮด์ 95% มีการใช้แผ่นกรองอากาศ HEPA หนาถึง 3 ชั้น ไม่ว่าสิ่งสกปรกไหนก็เอาอยู่ โดดเด่นด้วย ion Technology เทคโนโลยีปล่อยประจุไฟฟ้าขั้วลบเพื่อดักจับฝุ่น หน้าจอดิจิทัลบอกการทำงานพร้อมระบบสัมผัส เสียงเบามากเพียง 40 เดซิเบล รีโมทและคู่มือภาษาไทย ใช้ง่ายสุด ๆ


จุดเด่นของสินค้า

  • จัดการฝุ่น PM2.5, ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และสารฟอร์มาดีไฮด์ ได้อย่างดี

  • แผ่นกรองอากาศ HEPA 3 ชั้น เพิ่มความบริสุทธิ์ของอากาศ

  • Ion Technology ปล่อยประจุไฟฟ้าลบเพื่อดักจับฝุ่น

  • หน้าจอดิจิทัลบอกค่าการทำงานและยังเป็นแบบสัมผัส

  • มีรีโมท คู่มือภาษาไทย ใช้งานง่าย



 


3. เครื่องฟอกอากาศ Worldtech Air Purifier WT-P40





เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่ายต้อง Worldtech Air Purifier WT-P40 โดดเด่นด้วยฟังก์ชันภาษาไทย ไม่ยุ่งยากในการใช้งาน หน้าจอเครื่อง LED แบบสัมผัส มีตัวเลขบอกค่าอากาศ ตัวกรอง HEPA เกรด H11 กรองได้ 4 ชั้น ดักจับฝุ่นได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน 99.97% กลิ่นบุหรี่ เกสรดอกไม้ สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ จัดการได้แบบอยู่หมัด ปรับการทำงานได้ 3 โหมด เช่นเดียวกับความเร็วลม 3 ระดับ ความดังเมื่อใช้งานเพียง 41 เดซิเบล ตั้งเวลาเปิด-ปิดสูงสุด 8 ชม. ควบคุมผ่านรีโมทระยะไกลได้ ไม่ต้องเดินมาเปิดด้วยตนเอง เหมาะกับห้องขนาด 40 ตร.ม.


จุดเด่นของสินค้า

  • มีฟังก์ชันภาษาไทย หน้าจอสัมผัส ใช้งานง่ายมาก

  • ตัวกรอง HEPA เกรด H11 กรองสูงถึง 4 ชั้น จัดการได้ทุกฝุ่นละออง และสารก่อภูมิแพ้

  • การทำงานและความเร็วลมปรับได้ 3 โหมด

  • ตั้งเวลาเปิด-เปิดสูงสุด 8 ชม.

  • น้ำหนักเครื่องเพียง 4.2 กก. ขนย้ายง่าย



4. เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier AC0820/20





ใครอยากได้เครื่องฟอกอากาศขนาดกะทัดรัด Philips Air Purifier AC0820/20 ตอบโจทย์มาก มีค่า CADR 190 ลบ.ม. / ชม. แผ่นกรองอากาศ HEPA Nano Protect จัดการฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 0.003 ไมครอน 99.5% (เล็กกว่า PM2.5 800 เท่า) มีระบบการกรองอัจฉริยะ สามารถวัดคุณภาพอากาศในบริเวณดังกล่าวได้ทันทีแม้พึ่งเปลี่ยนค่าเพียงเล็กน้อย บอกเป็นหน้าจอสีทั้งหมด 4 สี มีการกรองอากาศหมุนเวียน 3 มิติ หากปรับโหมด Sleep ไฟสถานะจะเบาแสงลง เสียงการทำงานเงียบเป็นปกติ เสียเบาไม่เกิน 60 DB เหมาะกับห้อง 16-49 ตร.ม.


จุดเด่นของสินค้า

  • แผ่นกรองอากาศ HEPA Nano Protect กรองฝุ่นเล็กจิ๋วได้สบาย

  • ระบบการกรองอัจฉริยะและวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่

  • ใช้การกรองอากาศแบบหมุนเวียน 3 มิติ

  • ปรับโหมด Sleep เพื่อการนอนหลับพักผ่อนที่สบายยิ่งขึ้น

  • ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ติดตั้งสะดวกมาก


5. เครื่องฟอกอากาศ Dee Taxt Air Purifier


เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพสูง ราคาประหยัด ต้องยกให้กับ Dee Taxt Air Purifier จุดเด่นสำคัญคือเสียงการทำงานที่เงียบมากเพียง 40 เดซิเบล มีโหมดการนอนหลับเพื่อลดแสงบริเวณหน้าจอ ไม่กวนสายตา แผ่นกรองอากาศ Super Air Purifier กรองฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ PM2.5 กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ หรือแม้แต่ไรฝุ่นก็ไม่ต้องห่วง กำลังไฟเพียง 35W ประหยัดพลังงาน ไม่เปลืองค่าไฟ ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องอัตโนมัติได้ แนะนำสำหรับห้องขนาด 32 ตร.ม.


จุดเด่นของสินค้า

  • เสียงการทำงานเงียบมากเพียง 40 เดซิเบล

  • ปรับโหมดนอนหลับเพื่อลดแสงหน้าจอได้ ไม่กวนสายตาทุกค่ำคืน

  • แผ่นกรองอากาศ Super Air Purifier กรองฝุ่นและสิ่งสกปรก กลิ่นไม่พึงประสงค์ครบ

  • กำลังไฟเพียง 35W ประหยัดพลังงานและค่าไฟ

  • ตั้งเวลาการเปิด-ปิดเครื่องอัตโนมัติได้



 


6. เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-J30TA





อีกยี่ห้อที่ทุกคนคุ้นเคยกับ Sharp FP-J30TA ที่มีจุดเด่นในด้านการใช้เทคโนโลยีพลาสม่า คลัสเตอร์ High density plasmacluster ion พ่นอนุภาคประจุไฟฟ้าบวก-ลบ จัดการกับเชื้อโรค แบคทีเรีย ไรฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ในอากาศ ปรับความแรงได้ 3 ระดับ ตั้งเวลาปิดเครื่องได้ 2 แบบ คือ 4 กับ 8 ชม. แผ่นกรองอากาศ HEPA ดักจับฝุ่นละอองเล็ก 0.3 ไมครอน ได้ 99.97% รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ มาพร้อมเซนเซอร์ ION Shower เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดักจับฝุ่นละอองไปอีกขั้น ระดับเสียง 44 เดซิเบล


จุดเด่นของสินค้า

  • เทคโนโลยีพลัสม่า คลัสเตอร์ จัดการเชื้อโรค แบคทีเรีย ไรฝุ่น สารก่อภูมิแพ้

  • พัดลมปรับความแรงได้ 3 ระดับ

  • ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องได้ 2 ช่วง คือ 4 กับ 8 ชม.

  • แผ่นกรองอากาศ HEPA ดักจับฝุ่นละอองได้ 0.3 ไมครอน ถึง 99.97%

  • เซนเซอร์ ION Shower เพิ่มประสิทธิภาพการดักจับฝุ่นละออง



 


7. เครื่องฟอกอากาศ Air Purifier JD-8005





อีกรุ่นเครื่องฟอกอากาศราคาสุดคุ้มค่า Air Purifier JD-8005 การออกแบบเน้นความเรียบหรู มีสไตล์เฉพาะตัว แผ่นกรองอากาศ HEPA ดับจับฝุ่น PM2.5 ได้สบาย รวมถึงยังกรองกลิ่นบุหรี่ แบคทีเรีย และสารอันตรายอื่น ๆ ภายในอากาศก็ไม่มีปัญหา พัดลมเสียงเงียบ ปรับทำงานได้ตามระดับความแรงที่ต้องการ ควบคุมระยะไกลผ่านรีโมท ตั้งเวลาเปิด-ปิดสูงสุด 8 ชม. มีค่า CADR อยู่ที่ 250 ลบ.ม. / ชม. เหมาะกับห้องขนาด 50 ตร.ม.


จุดเด่นของสินค้า

  • เน้นดีไซน์เรียบหรู เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

  • แผ่นกรองอากาศ HEPA จัดการฝุ่นละออง กลิ่นควันต่าง ๆ ได้ดี

  • พัดลมเสียงเงียบ ปรับการทำงานได้ตามเหมาะสม

  • ตั้งเวลาเปิด-ปิดได้ 8 ชม.

  • ค่า CADR หรือการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ 250 ลบ.ม. / ชม.



 


8. เครื่องฟอกอากาศพกพา USB Air Freshener Nano Anion





ปิดท้ายกันด้วยเครื่องฟอกอากาศชนิดพกพา USB Air Freshener Nano Anion ที่สามารถติดตัวเพิ่มความบริสุทธิ์ของอากาศได้ทุกที่แค่สวมไว้บริเวณคอ ปล่อยประจุไฟฟ้าลบ กว่า 120 ล้านครั้ง ปรับได้ 2 ระดับ สำหรับจัดการกับแบคทีเรีย เชื้อโรค และสิ่งสกปรกโดยรอบ เช่น ฝุ่น PM2.5, ละอองเกสร, สารก่อภูมิแพ้ ฯลฯ มีจอแสดงผลอัจฉริยะ เสียงเงียบ ใช้งานง่าย ไม่รู้สึกรำคาน ใช้งานง่ายมากเพียงกดปุ่มค้างไว้ 2 วินาที ไม่มีรังสีหรือสารก่ออันตรายใด ๆ ความจุแบต 700 mAh ใช้เวลาชาร์จ 3 ชม. ใช้งานได้สูงสุด 60 นาที ผ่านมาตรฐานการรับรองคุณภาพ ปลอดภัย


จุดเด่นของสินค้า

  • เครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ช่วยเพิ่มความบริสุทธิ์ในทุกพื้นที่

  • ปล่อยประจุไฟฟ้าลบุกว่า 120 ล้านครั้ง จัดการกับสิ่งสกปรกทุกประเภท

  • เสียงเงียบ ไม่รบกวนการใช้ชีวิต

  • ใช้งานง่ายด้วยการกดปุ่มค้างเพียง 2 วินาที

  • ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้งานได้สูงสุด 60 นาที



สรุป


ท้ายที่สุดนี้ด้วยสภาพอากาศของบ้านเราไม่ว่าจะในกรุงเทพ ต่างจังหวัด มีโอกาสที่จะเกิดค่าฝุ่น PM 2.5 เมื่อไหร่ก็ได้ เครื่องฟอกอากาศ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรที่จะมีติดบ้านไว้เป็นการดีที่สุดครับ เพื่อจะได้มีอากาศอันแสนบริสุทธิ์ไว้หายใจเข้าสู่ร่างกาย ยิ่งครอบครัวไหนมีลูก-หลาน มีเด็กเล็ก ๆ คนแก่ หรือคนที่มีปัญหาภูมิแพ้ ก็ควรใช้งานเครื่องฟอกอากาศอย่างยิ่งเลย เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ก็จัดมาให้ทั้ง 8 รุ่น เลยครับ ตังค์ทอนเป็นห่วงเพื่อน ๆ ทุกคนจากใจจริง อย่าลืมซื้อไว้ใช้กันนะ สวัสดีครับ


Comments


Commenting has been turned off.
bottom of page